วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สารอาหารบำรุงสายตาที่สำคัญ 4 ชนิด

สารอาหารบำรุงสายตาที่สำคัญ 4 ชนิด

          จากผลการวิจัยทางการแพทย์ที่มีมายาวนานพบว่า สารอาหาร 4 ชนิดที่มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ



1.วิตามินและแร่ธาตุชนิดรวม (Vitamins and Minerals)
          วิตามินชนิดนี้มีส่วนช่วยในการทำงานของดวงตาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคงหนีไม่พ้นจำพวก วิตามินเอ (Vitamin A) และเบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene) ซึ่งวิตามินทั้งสองจำเป็นอย่างยิ่งต่อการมองเห็นโดยเฉพาะเวลากลางคืน
          วิตามินเอในรูปของเรตินอล (Retinol) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดสีที่เรียกว่าโรดอฟซิน (Rhodopsin) ซึ่งอยู่ที่จอประสาทตา โรดอฟซินจะมีความไวต่อแสงแม้เพียงเล็กน้อย จึงจำเป็นอย่างมากในการมองเห็นเวลากลางคืน นอกจากนี้วิตามินเอยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกได้อีกด้วย
          ในส่วนของวิตามินบี (Vitamin B) พบว่าการขาดวิตามิน – บี12 ( Vitamin-B12) จะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคต้อหิน
          นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) มีความสำคัญไม่น้อยในการลำเลียงวิตามินเอจากตับไปที่จอประสาทตา ดังนั้นการขาดธาตุสังกะสี อาจก่อให้เกิดความผิดปกติในการมองเห็น และเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอีกได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อรับประทานอาหารจำพวกวิตามินเอและบีแล้ว อย่าลืมที่จะรับประทานอาหารในกลุ่มที่มีแร่ธาตุสังกะสี ด้วยอาทิเช่น เนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเลโดยเฉพาะหอยนางรม เป็นต้น

2.สารลูทีน (Lutein)
          เป็นสารธรรมชาติในกลุ่ม Carotenoids ซึ่งเป็นรงควัตถุสีเหลืองเข้ม พบได้ในพืชที่มีสีเหลือง รวมไปถึงผักใบเขียวเข้มต่างๆ อาทิเช่น ผักโขม ข้าวโพด ดอกดาวเรือง เป็นต้น และพบที่เซลล์บริเวณ Macula ในจอประสาทตา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการมองเห็นภาพที่อยู่ตรงกลางของส่วนรับภาพ
นอกจากนี้ยังช่วยกรองแสงสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นแสงที่ต่างจากสีอื่นตรงที่ว่า แสงสีน้ำเงินจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา เช่น แสงจากหลอดไฟ แสงจากหน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
          นอกจากนี้ลูทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องดวงตาจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในดวงตา ซึ่งจะเป็นตัวทำลายเซลล์รับภาพและทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับจอประสาทตาได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่



3.กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid)
          สำหรับกรดไขมันโอเมก้า – 3 ชนิด DHA จะเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและระบบประสาทตาที่ดี โดยปกติน้ำมันชนิดนี้จะพบมากในน้ำมันปลาทะเล (Fish Oil) ซึ่งช่วยชะลอการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้น ป้องกันอาการตาแห้ง โดยเฉพาะผู้ที่สวมใสคอนแทกส์เลนส์เป็นประจำ

4.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries)
          ผลไม้ในกลุ่มนี้ถือว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงดวงตาอย่างมากโดยเฉพาะบิลเบอร์รี่ (Bilberry) เนื่องจากมีสารสำคัญอย่าง Anthocyanosides ที่ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด และหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ที่อยู่ในดวงตารวมถึงเพิ่มการไหลเวียนเลือดของเส้นเลือดฝอยในตา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากช่วยป้องกันการทำลายจากสารอนุมูลอิสระซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมของจอประสาทตา ต้อกระตก และอาหารตาบอดกลางคืน
          การรับประทานบิลเบอร์รี่เป็นประจำ นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังช่วยทำให้ดวงตาของคุณสดใส มีน้ำหล่อเลี้ยงแลดูมีสุขภาพดีอยู่เสมออีกด้วย



           ทั้งหมดนี้คือสารอาหารจากธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของดวงตา รวมไปถึงแนวทางในการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันความผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาของคุณ และแน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้ ย่อมช่วยถนอมให้คุณมีดวงตาคู่สวยพร้อมกับสุขภาพของดวงตาที่ดีไปอีกนานแสนนาน

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Puritan's Pride Co Q-10 (โคเอ็นไซม์ คิวเท็น) ขนาด 100 mg จำนวน 60 เม็ด




ราคาพิเศษ 380 บาท (จากปกติ 420 บาท) + ส่งฟรีทั่วประเทศ !!!



**คุณประโยชน์ทั่วไปของ โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10
     - ช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูง หลังจากรับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 ต่อเนื่อง 4-12 สัปดาห์
     - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานให้กับหัวใจ, สมอง และ กล้ามเนื้อต่างๆ
     - มีส่วนช่วยลดภาวะหัวใจวายฉับพลับ และ ลดอาการเจ็บหน้าอก
     - มีส่วนช่วยลดอาการหัวใจล้มเหลวในกรณีใช้คู่กับยา ลดอาการบวมที่ขาและลดของเหลวในปอด ทำให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น และเพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการภาวะหัวใจล้มเหลว
     - ช่วยเสริมการสร้างพลังงานในส่วนของหัวใจ สมอง และ กล้ามเนื้อต่างๆในร่างกาย
     - เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
     - ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นในผู้ที่มีเชื้อ HIV เอดส์
     - เพิ่มประสิทธิภาพของเชื้ออสุจิให้เคลื่อนที่ได้ดีขึ้น และช่วยเสริมประสิทธิภาพเพิ่มความสมบูรณ์ของผู้ชาย
     - ถูกนำไปใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยทางสมอง พาร์กินสัน และ อัลไซเมอร์
     - เพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายในผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
     - ช่วยลดภาวะอาการปวดหัวไมเกรน
     - ช่วยเสริมสร้างสุขภาพเหงือกและปาก

**คุณสมบัติและขนาดรับประทาน

     - หญิงสาวหรือชายหนุ่มผู้ต้องการลดริ้วรอย ลดความหมองคล้ำของผิว รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 100-200 mg/วัน โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ดวันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร (แนะนำให้รับประทานร่วมกับวิตามินซี และ คอลลาเจน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ให้ผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้น)
     - ผู้ที่ต้องการ ลดไขมันในเลือด และลดคอเลสเตอรอล สามารถรับประทานโคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 100-400 mg โดยแบ่งรับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - วัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้มีภาวะขาด โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ100- 200 mg  ทานครั้งละ 1 เม็ดวันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่มีอาการโรคหัวใจ รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200 mg ครั้งละ 1 เม็ดวันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่มีอาการภาวะความดันโลหิตสูง รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200 mg ทานครั้งละ 1 เม็ดวันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน (stroke) รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200-400 mg ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่รับประทานยาลดไขมัน/ยาลดระดับโคเลสตอรอล รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200 mg ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากเซลล์สมองเสื่อม (โรคพาร์กินสันและโรคอัลไซเมอร์) รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200-400 mg ทานครั้งละ 2 เม็ดวันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Aids) รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 200 mg ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
     - นักกีฬา หรือผู้ที่ต้องใช้พลังงานมาก รับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q-10 วันละ 100-200 mg ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร


**ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการรับประทาน
     - เนื่องจาก Q10 เป็นสารอาหารที่ละลายได้ดีในไขมันได้ ดังนั้นมันจะถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน เช่น ถั่ว เนย หรือจะเห็นได้ว่าแคปซูลที่บรรจุ โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q10  เป็นแคปซูลที่ทำมาจากสารเคลือบเจลใสพิเศษ
     - เก็บในที่ปราศจากแสง และที่เย็นแต่ห้ามแช่แข็ง
     - สถาบันวิจัยเมโย คลีนิก Mayo Clinic USA แนะนำ ว่าผู้ที่อายุเกิน 18 ปี สามารถรับประทาน โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q10 ในช่วง 50-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน คนปกติ รับประทานได้ 50-100 มิลกรัมต่อวัน ผู้ที่ต้องการเสริมอาหารสำหรับรักษาอาการผิดปกติของร่างกาย แนะนำรับประทาน 100-200 มิลกรัมต่อวัน และ สำรหับหรับผู้ป่วยที่มีอาการทางสมอง เช่น พาร์กินสัน และ อัลไซเมอร์ แนะนำรับประทาน 400 มิลกรัมต่อวัน ในปริมาณการรับประทาน มากกว่า 200 มิลกรัมต่อวัน ควรปรึกษาแพทย์

     - สำหรับผู้ที่รับประทานเพื่อลดระดับภาวะความดันเลือดสูง ควรรับประทานติดต่อกันนานกว่า 4-12 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากต้องใช้เวลากว่าจะเริ่มเห็นผลของ โคเอ็นไซม์ คิวเท็น Co Q10

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Puritan's Pride Premium - Ultra Biotin 7500 mcg ขนาด 50 Tablets

Puritan's Pride Premium - Ultra Biotin 7500 mcg 50 Tablets



สรรพคุณทั่วไป เป็นวิตามินเพื่อบำรุงสุขภาพผม เล็บ และผิวพรรณ
ราคาพิเศษ 350 บาท (จากปกติ 450 บาท) + ส่งฟรีทั่วประเทศ !!!


ประโยชน์ของ Biotin (ไบโอติน)
     - ช่วยบำรุงรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพดี เงางาม
     - ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังและช่วยลดการเกิดสิว
     - ช่วยบำรุงรักษาเล็บให้มีสุขภาพดี ไม่เปราะ

Biotin (ไบโอติน) เหมาะกับใคร
     - ผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพ ความงาม และต้องการบำรุงรักษาผม เล็บ และผิวหนัง
     - ผู้ที่ทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นประจำ
     - ผู้ที่ชอบทานไขขาวดิบเป็นประจำ

อาการของผู้ที่ขาดวิตามินไบโอติน (Biotin)
อาการที่เรามักพบเสมอในผู้ที่มีอาการขาดวิตามินไบโอติน มีดังต่อไปนี้
     - หมดเรี่ยวแรง (Fatigue) และอาจมีอาการของการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ (Muscle Pain) เป็นประจำ
     - มีอาการคลื่นไส้อาเจียน (Nausea) หรือความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร (Loss of Appetite)
     - มีอาการทางระบบประสาท เช่น อาการนอนไม่หลับ (Insomnia) ภาวะซึมเศร้า (Depression) ประสาทหลอน (Hallucination)
    - เกิดความบกพร่องของระบบผิวพรรณ เช่น มีอาการผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นผื่นคัน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา จมูก ปาก และ บริเวณอวัยวะเพศ ผิวคล้ำและเป็นจ้ำ การรับสัมผัสทางผิวพรรณผิดปกติ (Sensitivity to touch) อาการผมร่วง (Hair Loss)
     - ระบบการเผาผลาญไขมันเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้ไขมัน โคเลสเตอรอลในเลือดสูง(Increase in cholesterol) และการเผาผลาญไขมันน้อยลงกลไกการทำงานของวิตามินไบโอตินในร่างกาย (Mechanism of Action in our Body)

หน้าที่หลักของ ไบโอติน (Biotin)
     หน้าที่หลักของวิตามิน ไบโอติน (Biotin) ในร่างกายของเรา คือ การทำหน้าที่เป็นตัวร่วมเร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมีหรือที่เราเรียกว่า โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในปฏิกิริยาต่างๆ ซึ่ง ได้แก่
     - เป็น โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในขบวนการเผาผลาญไขมัน (Fat Metabolism) ช่วยให้ร่างกายสามารถนำไขมันมาใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น และนำไขมันมาสร้างเป็นกรดไขมัน (Fatty Acid) ที่เป็นสารตั้งต้นของสารสำคัญในร่างกายอื่นๆ ได้ดีขึ้น
     - เป็น โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในกระบวนการสร้างสาร ไพริมิดีน (Pyrimidine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายนำไปใช้สร้างกรดนิวคลีอิค (Nucleic Acid) หรือ ดีเอ็นเอ (DNA) และ อาร์เอ็นเอ (RNA) ซึ่งเป็นสารทางพันธุกรรมต่อไป

ขนาดรับประทาน : วันละ 1 Tablet พร้อมมื้ออาหาร

ข้อควรระวัง : สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานวิตามิน

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[Clip VDO] วิธีดูแลดวงตา - บิลเบอร์รี่ Bilberry บำรุงสายตา

ประโยชน์ของผล บิลเบอร์รี่(Bilberry) ที่มีต่อดวงตา


ประโยชน์ของผล บิลเบอร์รี่ (Bilberry) ที่มีต่อดวงตา
- เพิ่มสมรรถภาพในการมองเห็นในที่มืดให้ดีขึ้น
- ช่วยการโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น
- มองเห็นภาพได้คมชัดขึ้น
- ลดความเสี่ยงจากอาการตาบอด
- ปกป้องโครงสร้างของผนังเส้นเลือดฝอยในดวงตา
- ป้องกันโรคต้อชนิดต่างๆ

นอกจากนี้บิลเบอร์รี่ยังมีส่วนช่วยป้องกัน โรคเบาหวาน, โรคไทฟอยด์, นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ, โรคความดันโลหิตสูง และโรคระบบหายใจผิดปกติ ได้อีกด้วย

Cr. http://www.ihealthyplusshop.com