วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับ 10 วิธีการดูแลสมองให้เฉียบคม

 เคล็ดลับ 10 วิธีการดูแลสมองให้เฉียบคม 10

                เพราะสมองไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่แยกหูทั้งสองข้างของเราออกจากกันเพียงเท่านั้น แม้หลายๆ คนบางครั้งอาจถูกคนข้างๆ ถากถางปรามาสไว้อย่างนั้นในบางครั้งก็ตามแต่ หากแต่ว่าความเป็นจริงแล้วสมองนั้นเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งของเรา เพราะสมองมีหน้าที่คอยควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว พฤติกรรม และการรักษาสมดุลภายในร่างกายให้เป็นไปโดยปกติ เมื่อสมองเป็นอวัยวะสำคัญที่ไม่ควรละเลยการดูแล วันนี้เรามาดูกันว่ามีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยให้สมองของเรามีความเฉียบคมอยู่ตลอดเวลา




 1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
                การออกกำลังกายทุกวันวันละอย่างน้อย 30 นาที วิธีนี้จะส่งผลดีต่อระบบการทำงานของสมอง ให้ระบบการไหลเวียนโลหิตในสมองดีขึ้น และในขณะที่หัวใจและอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายก็มีความแข็งแรงขึ้นตามไปด้วย กล่าวได้ว่าสมองแจ่มใส มาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแรง

 2. เลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
                การได้รับพลังงานในปริมาณที่มากหรือน้อยเกินไป มีผลต่อการทำงานของระบบสมองเหมือนกัน ดังนั้นแล้วหากสนใจเรื่องการดูแลสมอง ก็ไม่ควรที่จะละเลยเรื่องการบริโภคอาหารหรือผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูง และให้ปริมาณของไขมันและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ที่สำคัญคือควรลดการทานอาหารที่บั่นทอนสุขภาพไม่ก่อนให้เกิดประโยชน์กับร่างกาย อาทิเช่นอาหารที่มีรสจัดมากเกินไป เป็นต้น การบริโภคอาหารให้ถูกหลักโภชนาการจะทำให้การทำงานของระบบสมอง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

 3. หักห้ามใจ ไม่ตามใจปาก
                การทำอะไรตามใจบากมักสร้างความลำบากตามมาในอนาคตไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคำพูดที่สื่อออกไปตามใจโดยไม่คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ หรือแม้แต่การกินเองก็ตามแต่ หากเลือกทานอาหารอย่างไม่ดูคุณค่าทางโภชนาการ จะมีส่วนทำให้สมองของเราทำงานช้าลงได้ เช่นการทานอาหารมื้อหนักจะทำให้สมองมีความเอ่ยชา ง่วงซึมหลังมื้ออาหารได้ ดังนั้นจึงควรอย่างยิ่งที่จะรู้จักควบคุมปริมาณอาหาร และเลือกทานอาหารอย่างเหมาะสมในแต่ละมื้ออาหาร  

 4. ใส่ใจดูแลตัวเองให้มากขึ้น
                คุณรู้หรือไม่? โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง ทั้งสามโรคนี้เป็นโรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสมองโดยตรง โรคเหล่านี้ทำให้กระบวนการรับรู้ของสมองแย่ลง จนบางครั้งอาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อมเกิดขึ้นได้ ซึ่งเราคงไม่อยากเป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่ คงไม่ดีแน่หากเราลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองจำชื่อตัวเองและคนรอบข้างไม่ได้ รู้อย่างนี้แล้วเราจึงควรที่จะหันมารักและดูแลตัวเองให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงการทำลายสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิเช่น การสูบบุหรี่ การเสพสารเสพติด การดื่มสุราอย่างหนัก เป็นต้น และอย่าลืมที่จะหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อป้องกันและบรรเทาไม่ให้สมองของเราถูกทำลายก่อนวัยอันควร

 5. พักผ่อนให้เพียงพอ
                การนอนหลับ ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ร่างกายและสมองของเราได้รับการพักผ่อน และผ่อนคลายอย่างเต็มที่ หลังจากการใช้งานตรากตรำมาตลอดชั่วโมงการทำงาน การนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง จะมีส่วนช่วยทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตัวเราเองก็จะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าพร้อมกับการทำงานครั้งต่อไปด้วยเช่นกัน

 6. กาแฟ
                มีการศึกษาพบว่าสารคาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยปกป้องสมองได้ การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะต่อครั้งต่อวันถือว่ามีความสำคัญมาก การดื่มกาแฟวันละ 2-4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคความจำเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง ร้อยละ 30-60 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว




 7. เนื้อปลาบำรุงสมอง
                ปลาถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อยง่าย ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและสมองเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะสารอาหารโอเมก้า(Omega-3) ที่อยู่ในเนื้อปลา สามารถช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 8. รู้จักผ่อนคลาย ปล่อยตัวไปตามสบาย
                ความเครียดคือไฟอย่างดีที่เผารนสุขภาพกายและใจของเราให้ด้อยลงไป และที่สำคัญความเครียดนั้นส่งผลโดยตรงต่อการทำงานและการจดจำของสมอง เครียดมากประสิทธิภาพของสมองก็แย่มากตามมา ดังนั้นจงรู้จักผ่อนคลาย ปล่อยตัวความสบาย ลดความตึง หรือเงื่อนไขในชีวิตลงบ้าง จะช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย เป็นการเติมเชื้อไฟให้กับการทำงานของร่างกายและสมองได้อีกทางหนึ่ง

 9. การใช้อาหารเสริมบำรุงสมองอย่างพอดี
                ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีผลดีต่อร่างกายของผู้ที่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารเข้ามาทดแทนส่วนที่ขาด หรือทดแทนการบริโภคอาหาร ที่ได้รับคุณค่าทางสารอาหารไม่เพียงพอ อาหารเสริมใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยเสียทีเดียว ซึ่งอาหารเสริมชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่อาหารหลัก การทานอาหารเสริมนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องห้าม หากแต่การเลือกอาหารเสริมมาเป็นอาหารหลักนั้นเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างยิ่ง การทานอาหารเสริมต่างๆ อย่างผิดวิธีและเกินขีดความจำเป็นนั้น นอกจากจะไม่ส่งผลดีแล้ว ยังจะส่งผลเสียต่อสมองเป็นอย่างมาก และที่สำคัญอาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุด้วยเหมือนกัน

 10. ทำกิจกรรมที่ลับสมอง
                การทำงานอดิเรกในเวลาว่าง การเล่นเกมส์ลับสมองก็เป็นการบริหารสมองและเพิ่มรอยหยักให้กับสมองได้อีกทางหนึ่ง เกมส์ที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพให้กับสมองได้แก่ การเล่นเกมส์ปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ภาพ การวาดภาพ เล่นหมากรุก เป็นต้น กิจกรรมยามว่างเหล่านี้นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินจากการเล่นแล้ว ยังช่วยให้เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพของสมองได้อีกด้วย



               
                วิธีการดูแล้วสมองทั้ง 10 วิธีนี้ ไม่ยากเกินไปสำหรับการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หากใครที่ชื่นชอบการดูแลสมอง ก็อย่าลืมลองนำเอาทั้ง 10 วิธีนี้ไปปรับใช้ เพื่อจะได้เพิ่มประสิทธิภาพของสมองในการทำงาน ให้สมองของเรามีความเฉียบคมอยู่ตลอดเวลา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น